PM2.5กลับมาอีกครั้ง
หลังจากข่าวเมื่อปีที่แล้วเป็นข่าวที่สื่อสำนักทุกช่องให้ความสนใจมาก นั้นก็คือเรื่องของสภาพอากาศที่แย่และมีฝุ่นเจ้าPM2.5 เราจะรับมือกับมันอย่างไรดีตอนนี้มันกลับมาอีกครั้งแล้ว
ก่อนเราจะเข้าเรื่อง เราต้องทำความรู้จักก่อนว่ามันเกิดมาได้อย่างไร
ฝุ่น PM 2.5
คำว่า PM ย่อมาจาก Particulate Matters เป็นคำเรียกค่ามาตรฐานของฝุ่นละอองขนาดเล็กที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 2 ชนิด ได้แก่ PM 10 และ PM 2.5 ส่วนตัวเลข 2.5 นั้นมาจากหน่วย 2.5 ไมครอนหรือไมโครเมตรนั่นเอง
พูดง่ายๆ คือ ฝุ่น PM 2.5 เป็นอนุภาคขนาดเล็กที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางเฉลี่ยน้อยกว่า 2.5 ไมโครเมตร แขวนลอยอยู่ในอากาศรวมกับไอน้ำ ควัน และก๊าซต่างๆ ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าถึงจะเป็นเพียงฝุ่นละอองขนาดจิ๋ว แต่เมื่อมาแผ่อยู่รวมกันจะกินพื้นที่ในอากาศมหาศาล ล่องลอยอยู่ในชั้นบรรยากาศปริมาณสูง เกิดเป็นหมอกควันอย่างที่เราเห็นกัน
PM2.5 มาจากไหน
- การเผาไหม้ จากบริษัทอุตสาหกรรมเกษตรขนาดใหญ่ โดยเฉลี่ยแล้วปล่อย PM 2.5 มากที่สุดถึง 209,937 ตันต่อปี
- เผาไม้ของเชื้อเพลิง ทั้งดีเซลและแก๊สโซฮอล์จากเครื่องยนต์ โดยเฉลี่ยแล้วปล่อย PM 2.5 ประมาณ 50,240 ตันต่อปี
- การผลิตไฟฟ้า ทำให้มีการปล่อย PM 2.5 สู่อากาศ โดยเฉลี่ยแล้วประมาณ 31,793 ตันต่อปี
- สารเคมีและอุตสาหกรรมการผลิต พบมากในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษมาบตาพุด จังหวัดระยอง โดยปล่อย PM 2.5 ราวๆ 65,140 ตันต่อปี
โรคร้ายของมันนั้น อันตรายมาก
โรคระบบทางเดินหายใจ
จะเห็นได้ว่าฝุ่นPM2.5 นั้นเป็นฝุ่นขนาดเล็ก สามารถสูดดมได้ง่าย และเข้าถึงภายในร่างกายได้เร็ว จึงสามารถเข้าไปถึงถุงลมปอด ทำให้ปอดเกิดการอักเสบ ระคายเคือง และเป็นโรคระบบทางเดินหายใจได้
โรคหัวใจและหลอดเลือด การสูดฝุ่นแบบนี้เข้าไปทำให้เลือดข้นได้ และทำให้หัวใจทำงานหนักขึ้น
โรคผิวหนัง ด้วยอนุภาคของละอองฝุ่น PM 2.5 ที่เล็กมากๆ มักเป็นสารประกอบพวกคาร์บอนที่มีคุณสมบัติละลายได้ดีในน้ำมัน จึงสามารถผ่านเข้าไปยังเซลล์ผิวหนังได้ ทำปฏิกิริยาออกซิเดชั่นกับผิวหนัง ทำให้เกิดริ้วรอย ผิวหมองคล้ำ เกิดจุดด่างดำและส่งผลต่อการทำงานของเซลล์ผิวในระดับยีน ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของโรค ผิวหนังอักเสบ และโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง
โรคเยื่อบุตาอักเสบ หรืออาการตาแดง เกิดจากการติดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย หรือมลพิษในอากาศ เช่น ฝุ่นควันจาก PM 2.5 เมื่อฝุ่นละอองเข้าสู่เยื่อบุตาจนเกิดการอักเสบ ดาแดง แสบตา คันตา ถ้าไม่รุนแรงมาก อาการจะหายไปเองภายใน 2-3 สัปดาห์ แต่การพบแพทย์เพื่อใช้ยาก็จะช่วยให้หายเร็วขึ้น
ไอเจ็บคอและมีเสมหะ
ฝุ่นละอองขนาดเล็กสามารถเล็ดลอดผ่านเข้าไปในโพรงจมูกได้อย่างง่ายดาย และลงไปจนถึงหลอดลม ส่งผลให้เกิดอาการระคายเคือง มีอาการเจ็บคอ ไอ จาม มีน้ำมูก และมีเสมหะ
เสี่ยงเป็นอัมพาต
ฝุ่นละออง PM 2.5 มีสารปรอทที่มาจากเผาไหม้น้ำมัน และถ่านหิน ส่งผลให้ทำลายระบบประสาท และเสี่ยงเป็นอัมพาต
เสี่ยงเป็นมะเร็ง
ฝุ่นละออง PM 2.5 มีสาร P-A-Hs ที่เป็นสารก่อให้เกิดมะเร็ง โดยสารชนิดนี้เกิดจากการเผาไหม้ของท่อไอเสีย จากโรงงานอุตสาหกรรม และควันบุหรี่
หากได้รับฝุ่นละออง PM 2.5 ในปริมาณมาก มีความเสี่ยงให้เกิดโรคเรื้องรัง อาทิ
• โรคหลอดเลือดในสมอง
• โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง
• โรคมะเร็งปอด
• โรคหัวใจขาดเลือด
• โรคติดเชื้อเฉียบพลันในระบบทางเดินหายใจส่วนล่าง
รู้จักทั้งที่มาและโรคกันไปแล้ว เราจะมาบอกวิธีการป้องกัน
ติดเครื่องฟอกอากาศ ตราแมนเนเจอร์ (Air Purifier by ManNature)
เครื่องฟอกอากาศจำเป็นมากๆ ต่อคนที่แพ้ฝุ่น หรือ pm2.5 ที่กำลังกลับมาในช่วงนี้ ผมบอกได้คำเดียวว่าช่วยได้จริง ทั้งฝุ่นธรรมดา และเครื่องฟอกอากาศ ตราแมนเนเจอร์รับประกัน1ปีอีกด้วย
ใส่หน้ากาก
หน้ากากอนามัยชนิด N95
เป็นหน้ากากอนามัยที่ได้รับความนิยมสูงสุดในขณะนี้ เป็นหน้ากากที่ได้มาตรฐานและได้รับการยอมรับว่าสามารถป้องกันเชื้อโรคได้ดีที่สุด เพราะป้องกันได้ทั้งฝุ่นละอองและเชื้อโรคที่มีขนาดเล็กถึง 0.3 ไมครอน เหมาะสำหรับป้องกันมลพิษ ฝุ่น PM 2.5 ควันพิษ ไอเสียรถยนต์ และไอระเหยของสารเคมีต่างๆ
ฝุ่น PM 2.5 เป็นมลพิษต่ออากาศและร่างกาย ควรป้องกันตนเองด้วยการสวมหน้ากากอนามัยที่สามารถป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็กได้ คือ หน้ากาก N95 ส่วนหน้ากากประเภทอื่นนั้น ช่วยป้องกันได้เพียงส่วนหนึ่ง และควรใส่ให้ถูกวิธี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งาน
สภาพอากาศในปัจจุบัน เป็นสิ่งที่อันตรายมาก และสามารถส่งผลอันตราย ก่อเกิดโรคสะสมอีกด้วย ดังนั้น การที่เราจะใช้ชีวิตที่ดีก็ต้องเริ่มจาก สุขภาพที่ดีก่อนนนะครับ
ด้วยความปรารถนาดีจาก mannature
สินค้าที่เกี่ยวข้อง เครื่องฟอกอากาศ ตราแมนเนเจอร์ (Air Purifierby ManNature)
ขอข้อคุณข้อมูลจาก tqm
บทความที่น่าสนใจ