คาเฟอีน อันตรายหรือไม่ต่อร่างกายของเรา ?

คาเฟอีน อันตรายหรือไม่ต่อร่างกายของเรา ?

Share : facebook share line share.png twitter share messenger share

บทความ แมนเนเจอร์

คาเฟอีน อันตรายหรือไม่ต่อร่างกายของเรา ?



แน่นอนว่า คาเฟอีน ถือว่าเป็นสิ่งที่มีอยู่ใน หลาย ๆ เครื่องดื่ม หรืออาจจะรวมไปถึงอาหาร และแถมมันยังมีทั้ง โทษ และ รวมไปถึงประโยชน์ ที่ส่งผลต่อร่างกายของเราได้ ด้วยเช่นกัน และวันนี้เราจะพามาวิเคาะห์ กันว่า คาเฟอีกมันดี หรือ เหมาะหรือไม่ที่จะนำมารับประทาน

 

                คาเฟอีน มีอยู่ใน อาหาร หลากหลาย ชนิด และที่ผู้คนนิยม รับประทาน กันในชีวิตประจำวัน ก็คงจะหนี้ไม่ พ้น กาแฟ ชา โคล่า เครื่องดื่มชูกำลัง หรือ รวมไปถึง ช็อกโกแลต เป็นต้น และ นอกจากนี้ กาแฟดีแคฟ หรือ รวมไปถึง กาแฟ ที่ระบุว่าไม่มีสารคาเฟ อีนนั้น แน่นอนว่า ความจริงแล้ว ยังมี คาเฟอีน เป็นส่วนประกอบอยู่ เช่นเดียวกัน แต่ เพียงแต่มีปริมาณ ของ คาเฟอีน จะน้อยมาก ๆ  หรือแม้แต่ ยาแก้ปวด บางชนิด ก็มี คาเฟอีน เป็นส่วน ผสมอยู่ด้วย ยกตัวอย่างเช่น  ทั้งนี้ อาหารและเครื่องดื่มแต่ละชนิดจะมีปริมาณคาเฟอีนไม่เท่ากัน ซึ่งอาหารที่มีคาเฟอีนมากที่สุด คือ กาแฟ โดยกาแฟประมาณ 240 มิลลิลิตร จะมีคาเฟอีนอยู่ประมาณ 95 - 200 มิลลิกรัม

 

 

                แต่ถ้าใคร คนไหน เกดมีข้อสงสัยที่ว่า แล้วอย่างงี้เราสามารถ รับประทาน คาเฟอีน หรือ เอาเข้าร่างกาย ปริมาณ เท่าไรถึงจะดี ถึงจะปลอดภัยต่อร่างกาย โดย ปริมาณ ของ คาเฟอีน ที่เหมาะสมต่อวัน นั้น โดย จริง ๆ แล้วนั้น คนทั่วไปไม่ควรบริโภคคาเฟอีนเกินวันละ ประมาณ 400 มิลลิกรัม และ ซึ่งเท่ากับการ ที่เรานั้น จะ ดื่มกาแฟประมาณ 4 แก้ว เลยทีเดียว หรือ เปรียบได้กับ เครื่องดื่มชูกำลัง 2 ขวด หรือ รวมไปถึง โคล่าประมาณ 10 กระป๋อง แต่ต้องข้อระวัง อย่างมาก นั้นก็คือ ปริมาณของ น้ำตาล ที่มันมาก จนเกินไปด้วย เพราะใน โคล่า หรือ ในน้ำอัดลม นั้น ประมาณ  10 กระป๋องอาจมีน้ำตาลมากถึง 350 กรัม กันเลยที่เดียวและถ้าเรา ทำการ รวมถึงกาแฟชง สำเร็จก็มีน้ำตาลผสมอยู่ในปริมาณมาก เช่นกัน หากบริโภคเป็นประจำอาจทำให้เสี่ยงต่อโรคอ้วนหรือโรคเบาหวานได้ ดังนั้น นอกจากปริมาณคาเฟอีนที่ต้องควบคุมแล้ว ยังต้องระวังเรื่องการบริโภคน้ำตาลส่วนเกินที่อยู่ในอาหารแต่ละชนิดด้วย

 

                โดย คาเฟอีน นั้นมีทั้งประโยชน์ และ รวมไปถึง โทษ และ ถ้าหากว่าเราได้รับ ไปใน ปริมาณคาเฟอีนที่มากเกิน อาจจะส่งผลอัตรายถึงชีวิตได้ เลยนั่นเอง และถึง ต่อให้ไม่เคยมีโรค ประจำตัว มาก่อน และ ซึ่งคาเฟอีนที่ควรได้รับ ต้องไม่เกิน 200 – 400 มิลลิกรัม โทษของคาเฟอีนจะมีดังนี้

 

  • คาเฟอีน สามารถไป กระตุ้นอาการ ปวดหัว ถึงแม้ว่า คาเฟอีน จำนวนเล็กน้อย แต่มันก็ อาจช่วยบรรเทาอาการปวดหัวให้บางคนได้ แต่ถ้า หากว่าได้รับ คาเฟอีน ใน ปริมาณ ที่มากเกินไป อาจจะส่งผล ตรงกันข้าม ได้ด้วยเช่นกัน นั้นก็ คือไปกระตุ้นให้ปวดหัวหนักกว่าเดิม และอาจจะพัฒนาไปเป็นไมเกรนในที่สุด
  • อาจจะทำให้ ใจสั่น หรือ หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ และ นี่เป็นสัญญาณว่า ร่างกายของเรา ได้รับ คาเฟอีน ในปริมาณ ที่มาก จนเกินไปแล้ว และ ซึ่งคนที่ดื่มกาแฟมาก ๆ หรือ รวมไปถึง คนที่ รับประทาน อาหารที่มี คาเฟอีน เข้มข้น ก็จะรู้สึกได้เลยว่าใจสั่น และเต้นเร็วผิดปกติ นั่นเป็นเพราะว่าคาเฟอีนเป็นสารกระตุ้นประสาท โดยจะออกฤทธิ์กระตุ้นสมองส่วนกลาง ทำให้เกิดอาการผิดปกติดังกว่าขึ้นได้
  • อาจจะมี ความดันโลหิตสูง เพราะได้ มี งานวิจัยของ mayo clinic ที่ เผยว่าปริมาณ คาเฟอีน ประมาณ 160 มิลลิกรัม ก็เพียงพอที่จะทำให้ความดันโลหิตในร่างกายของเราสูงขึ้นได้ ดังนั้นผู้ที่เป็นโรคความดันควรระมัดระวังในการดื่มหรือกินอาหารที่มีคาเฟอีน
  • สามารถไป ทำให้ เพิ่มความเสียงเป็น โรคหัวใจ ในวัยรุ่น เพราะใน การ ที่เรานั้นจะ ได้รับคาเฟอีนที่มากเกินไปจะเพิ่มความเสียงต่อการเป็นโรคหัวใจได้ถึง 4 เท่า ซึ่งคาเฟอีนไม่ได้อยู่แค่ในกาแฟเท่านั้น แต่ยังรวมถึง น้ำอัดลม เครื่องดื่มชูกำลัง ยาพาราเซตามอล ยาแก้ปวด ช็อกโกแลต หรือชาชนิดต่าง ๆ
  • เพิ่มความเสี่ยงโรคมะเร็งเต้านมและซีสต์ในผู้หญิง ผู้หญิงที่ได้รับคาเฟอีนเข้าไปในร่างกายมากกว่า 500 มิลลิกรัมต่อวัน จะมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคมะเร็งเต้านมและซิสต์เพิ่มขึ้น 2 – 3 เท่าเลยทีเดียว
  • ลำไส้แปรปรวน หารได้รับคาเฟอีนมากกว่า 500 – 600 มิลลิกรัมต่อวัน อาจเสี่ยงต่อภาวะขาดน้ำ เนื่องจากคาเฟอีนมีฤทธิ์เป็นสารขับน้ำอย่างหนึ่ง ซึ่งทำให้เราปวกปัสสาวะบ่อย อีกทั้งยังมีฤทธิ์คล้ายยาระบาย บางคนที่ได้รับคาเฟอีนในปริมาณที่มากเกินไปอาจทำให้ท้องไส้ปั่นป่วน ท้องเสีย หรือลำไส้แปรปรวน

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) ลดมลพิษ ภายในบ้าน

เพิ่มความ สดชื่น ให้ลมหายใจ ด้วยการใช้ เครื่องฟอกอากาศ


บทความที่น่าสนใจ

ประโยชน์ ดีๆ มีมากมายใน น้ำหวานดอกมะพร้าว

น้ำอัลคาไลน์ ( Alkaline water ) ตัวช่วย บรรเทาอาการ แสบท้อง