ไขมันทรานส์ ไขมันร้าย ทำลายสุขภาพ
ไขมัน ( Fat ) หนึ่งในสารอาหาร 5 หมู่ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ไม่ใช่ไขมันทุกชนิดที่จะเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย โดยเฉพาะ ไขมันทรานส์ ( Trans Fat ) ที่เป็นไขมันไม่ดี หากมีการบริโภคสะสม จะส่งผลเสียต่อสุขภาพได้
ไขมัน สารอาหารชนิดหนึ่งที่จำเป็นต่อร่างกาย ที่สามารถให้พลังงานกับร่างกายได้สูงถึง 9 แคลอรี่ต่อ 1 กรัม และยังมีหน้าที่อีกมายมาย ได้แก่ สร้างความอบอุ่นให้แก่ร่างกาย, ช่วยดูดซึมวิตามินบางชนิด และช่วยควบคุมอุณหภูมิในร่างกายให้คงที่ ไขมัน จึงกลายเป็น 1 ในสารอาหาร 5 หมู่ที่จำเป็นต่อร่างกายที่มนุษย์ควรได้รับในแต่ละวัน
ไขมัน ( Fat ) สามารถแบ่งได้ 3 ประเภท คือ
1. ไขมันอิ่มตัว ( Saturated Fat )
เป็นไขมันที่แข็งตัว เมื่ออยู่ในอุณหภูมิที่ ต่ำกว่า 25 องศาเซลเซียส โดยส่วนใหญ่ไขมันอิ่มตัว จะมีมากในเนื้อสัตว์ และผลิตภัณฑ์จากนม อาทิ น้ำมันหมู ไก่ โยเกิร์ต เนย ชีส เป็นต้น รวมถึงมีอยู่ในพืชบางชนิด เช่น น้ำมันมะพร้าว และน้ำมันปาล์ม
2. ไขมันไม่อิ่มตัว ( Unsaturated Fat )
เป็นไขมันที่ละลายในอุณหภูมิห้อง จัดเป็นไขมันที่มีประโยชน์ หรือไขมันที่ดีต่อร่างกาย เนื่องจากช่วยลดความเสี่ยงของ ระดับคอเลสเตอรอลในเลือดได้ จึงเป็นไขมันประเภทที่ควรทานในสัดส่วนที่มากที่สุด ไขมันชนิดนี้ มักพบได้จากพืช เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันทานตะวัน น้ำมันข้าวโพด น้ำมันถั่วเหลือง เป็นต้น
3. ไขมันทรานส์ ( Trans Fat )
เป็นไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน ที่ผ่านรูปแบบการเพิ่มไฮโดรเจน จนกลายเป็นไขมันอิ่มตัว เพื่อให้สามารถเก็บไว้ใช้ได้นาน มีความหืนช้า และใช้แทนไขมันสัตว์ เนื่องจาก มีต้นทุนต่ำกว่า นอกจากนี้ ไขมันทรานส์ ยังสามารถพบได้ในธรรมชาติ ในสัตว์เคี้ยวเอื้อง ได้แก่ เนื้อวัว เนื้อควาย และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เช่น เนย นม ชีส แต่ว่าพบไขมันชนิดนี้ ได้น้อยมาก
อันตรายของการบริโภค ไขมันทรานส์
ในการบริโภคไขมัน ผู้บริโภคควรหลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารที่ทำมาจาก ไขมันทรานส์ เนื่องจาก ไขมันชนิดนี้ เป็นสาเหตุของการเกิดโรคร้ายต่าง ๆ จากการสะสมไขมันได้ง่ายมาก เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด, โรคหลอดเลือดตีบ / ตัน, โรคอ้วน, โรคเบาหวาน, ความดันโลหิตสูง, โรคสมองเสื่อม เป็นต้น โดยไขมันทรานส์ จะมีความรุนแรงกว่า ไขมันอิ่มตัว ถึง 10 เท่าตัว เช่น หากบริโภค ไขมันทรานส์ 2 กรัมนั้น เท่ากับ การบริโภค ไขมันอิ่มตัว 20 กรัมเลยทีเดียว การบริโภคไขมันทรานส์ จึงเสี่ยงต่อการเกิดโรคได้ง่ายกว่า
การนำ ไขมันทรานส์ ( Trans Fat ) มาใช้ในอาหาร มักพบได้ใน เบเกอรี่ และส่วนผสมของอาหาร เช่น โดนัททอด, พาย, คุกกี้, มาการีน, ครีมเทียม เป็นต้น รวมไปถึง การใช้ในอุตสาหกรรม อาหารฟาส์ตฟู้ด เช่น เฟรนซ์ฟราย, แฮมเบอร์เกอร์, พิซซ่า ที่นำไขมันทรานส์ มาใช้ในการประกอบอาหารได้
ซึ่งในปัจจุบัน กระทรวงสาธารณสุขไ ด้มีประกาศบังคับใช้ และกำหนดโทษ สำหรับผลิตภัณฑ์ที่วางขายให้ท้องตลาด ไม่ให้มีการใช้ ไขมันทรานส์ เป็นส่วนประกอบอาหารแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภค ก็ยังต้องมีความใส่ใจใน การบริโภคอาหารทุกชนิด เพราะผลิตภัณฑ์บางส่วน อาจยังมีการใช้อยู่ได้ เช่น เนยเทียม หรือเนยขาว ผู้บริโภค จึงควรเช็ค ข้อมูลโภชนาการ ของผลิตภัณฑ์ ให้ดีก่อนซื้อ
อ่านบทความเพิ่มเติม
บทความที่น่าสนใจ