น้ำผึ้ง ความหวานจากธรรมชาติ เปี่ยมคุณค่ามากประโยชน์
น้ำผึ้งเป็นผลผลิตจากน้ำเชื่อมจากเกสรดอกไม้ชนิดต่างๆ เก็บโดยพนักงานจอมขยันอันดับต้นๆ ของโลก ผึ้งงานตัวน้อยที่ทำงานกันอย่างแข็งขันโดยไม่มีวันหยุด
ผึ้งงาน หรือผึ้งน้ำหวานจะเปลี่ยนน้ำเชื่อมจากดอกไม้ เป็นน้ำผึ้งด้วยการขย้อนน้ำเชื่อมจากดอกไม้ที่ดูดไว้ออกมา เพื่อเตรียมไว้เป็นแหล่งอาหารให้กับตัวอ่อนในรังผึ้ง โดยจะสร้างขี้ผึ้งจากเศษเกสรดอกไม้ผสมกับน้ำเมือก ขึ้นรูปเป็นโพรงทรง 6 เหลี่ยม และเก็บของเหลวที่ได้จากการขย้อนนั้น(น้ำผึ้ง)ลงไป ปิดทับด้วยขี้ผึ้งอ่อนอีกชั้น
ส่วนประกอบของน้ำผึ้ง
น้ำผึ้งมีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบถึง 80-85% ประกอบไปด้วยน้ำตาลชนิดต่างๆ น้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว ได้แก่ กลูโคส และฟรักโทส ซึ่งเป็นน้ำตาลที่ย่อยเป็นพลังงานให้กับร่างกายได้อย่างรวดเร็ว อีกกลุ่มคือน้ำตาลโมเลกุลคู่ ได้แก่ มอลโทส ซูโครส แล็กโทส และมีส่วนของน้ำตาลที่มีโมเลกุลซับซ้อน อย่างเดกซ์โทรสผสมอยู่ด้วย ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมา เป็นส่วนผสมความหวานที่ได้จากธรรมชาติล้วนๆ ดังนั้นน้ำผึ้งจากธรรมชาติที่บริสุทธิ์จริงจะมีปริมาณซูโครสไม่เกินร้อยละ 5-8 เท่านั้น ถ้าสูงกว่านั้นแสดงว่า น้ำผึ้งนั้นมีการผสมน้ำเชื่อม หรือไม่ใช่น้ำผึ้งบริสุทธิ์นั้นเอง
คุณค่าทางอาหารของน้ำผึ้ง
น้ำผึ้งเป็นอาหารกลุ่มให้พลังงาน (คาร์โบไฮเดรต)เนื่องจากมีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบหลัก น้ำตาลกว่า 70%ในน้ำผึ้งเป็นน้ำตาลที่ย่อยง่าย ร่างกายสามารถดูซึมไปใช้ได้อย่างรวดเร็ว ช่วยฟื้นฟูกำลัง ช่วยให้หายเหนื่อยเร็ว และให้ความสดชื่น หลังออกกำลังกายได้ดี ในน้ำผึ้งมีวิตามิน บีและซี และยังมีแร่ธาตุต่างๆ เช่น แคลเซียม เกลือแร่ ฟอสฟอรัส กรดอะมิโนที่จำเป็น รวมถึงสารต้านอนุมูลอิสระ ที่มีลักษณะเดียวกันกับที่พบในผักใบเขียว มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ช่วยชะลอวัย ชะลอความเสื่อมของเซลล์และช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน
สรรพคุณทางยาของน้ำผึ้ง
น้ำผึ้งได้รับการยอมรับและใช้กันอย่างแพร่หลายมาหลายพันปีแล้ว โดยถือให้น้ำผึ้งเป็นอาหารบำรุงกำลัง ปรับสมดุลให้กับร่างกาย ช่วยให้อวัยวะภายในทำงานได้ดีขึ้น ช่วยรักษาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ท้องผูก ช่วยบรรเทาอาการท้องเสีย ลดกรดในกระเพาะอาหาร ใช้ล้างแผล ฆ่าเชื้อโรค ใช้รักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวกได้
สรรพคุณด้านความงามของน้ำผึ้ง
นอกจากน้ำผึ้งจะใช้นำมาเป็นอาหารที่อุดมคุณค่าแล้ว น้ำผึ้งยังมีสรรพคุณมากมายเพื่อความงามอีกด้วย น้ำผึ้งถูกนำมาเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางและครีมบำรุงผิวมาตั้งแต่ยุคอียิปต์โบราณ ด้วยที่น้ำผึ้งมีความสามารถในการต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย “ไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์” สารชนิดนี้กำจัดเชื้อโรคได้โดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อ ซึ่งทำให้น้ำผึ้งถูกนำมาใช้เพื่อรักษาโรผิวหนังรวมถึงเรื่องความงามอีกด้วย
นอกจากนี้น้ำผึ้งมีสารประกอบที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องแสงแดดและรังสียูวี แถมช่วยเสริมสร้างเซลล์ผิวให้แข็งแรง นุ่มเนียน เครื่องสำอางประเภท สบู่, ครีมพอกหน้า, ครีมขัดหน้า, เจลล้างหน้าจึงนิยมน้ำน้ำผึ้งมาเป็นส่วนผสมหลักของผลิตภัณฑ์
ลักษณะน้ำผึ้งที่ดี
น้ำผึ้งจะมีหน้าตาและสีจะคล้ายๆ กันแต่คุณภาพอาจแตกต่างกัน น้ำผึ้งที่ดีจะต้องมีลักษณะข้นหนืด มีความใสโปร่งแสง ไม่มีตะกอน ไม่มีฟอง ไม่มีกลิ่นบูดเปรี้ยว แต่จะมีกลิ่นหอมเฉพาะตัวจากเกสรดอกไม้ การคัดน้ำผึ้งที่ดีจะต้องดูจากความชื้นที่อยู่ในน้ำผึ้ง ยิ่งน้ำผึ้งมีความชื้นต่ำก็จะยิ่งมีคุณภาพมากเท่านั้น จึงเป็นเหตุผลว่า น้ำผึ้งเดือน 5 จึงเป็นสุดยอดน้ำผึ้งคุณภาพ เพราะในเดือน 5 เป็นหน้าเล้ง ไม่มีฝน ดอกไม้กำลังบาน จึงทำให้น้ำผึ้งที่ได้มีความชื้นต่ำและมีกลิ่นหอม
แต่ด้วยในปัจจุบันน้ำผึ้งเดือน 5 ตามธรรมชาติอาจหาได้ยากเนื่องพื้นที่ป่าลดลง จึงทำให้มีการปลอมแปลงน้ำผึ้งมาแร่ขายกันมากขึ้น น้ำผึ้งที่ขายกันหากเป็นน้ำผึ้งแท้ ส่วนมากจะมาจากการเลี้ยงผึ้งในสวนไม้ผล เช่น ลำไย หรือ เลี้ยงในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ซึ่งคุณภาพจะสู้น้ำผึ้งป่าไม่ได้ เมื่อเก็บไว้ซักระยะน้ำผึ้งจะเปลี่ยนสี สีจะเข้มขึ้น และอาจมีกลิ่นและรสชาติเปลี่ยนไป
ขอขอบคุณข้อมูลจาก lovefitt
อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม
บทความที่น่าสนใจ